ไข่มุกอันดามันสวรรค์เมืองใต้
ภูเก็ตเมืองลือชื่อเรื่องทะเลที่สวยงามผู้คนใจดีถิ่นไข่มุกอันดามันเปรียบดั้งสวรรค์ของคนภาคใต้ด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันหลากหลายทั้งป่าดิบชื่น ป่าชายเลน
หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสสีคราม ใต้ท้องทะเลมีแนวปะการังสวยงาม หาดทรายขาวเนียนละเอียดดุจผืนผ้าใบสีขาวยาวแสงสีทองของดวงอาทิตย์ทราบทาจึงมองเห็นดุจหาดทรายสีทอง
ประวัติความเป็นมาของภูเก็ต
มีหลายกระแส บ้างก็ว่าภูเก็ตเป็นเกาะ ที่ค้นพบโดยชาวประมง แต่เดิมเรียกว่า “บูกิต” ซึ่งเป็นภาษามลายูแปลว่าภูเขา
เพราะเมื่อมองจากทะเล จะเห็นเหมือนมีภูเขา โผล่ขึ้นกลางน้ำ แต่บางกระแส
ก็ว่าภูเก็ตมาจากคำว่า “ภูเก็จ” แปลว่าภูเขาที่มีค่า
ซึ่งคำว่าภูเก็จนี้มีบันทึก ในเอกสารเมืองถลางว่า ใช้กันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2328
มีฐานะเป็นเมือง ที่ขึ้นตรงต่อเมืองถลาง
ซึ่งต่อมาคำนี้ได้เปลี่ยนเป็น “ภูเก็ต” โดยไม่ทราบสาเหตุ ดังมีปรากฏอยู่ในหนังสือราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2450
เป็นต้นมา โดยเริ่มเป็นที่รู้จักกัน ในฐานะ มณฑลภูเก็ต
ในสมัยรัชกาลที่ 5 และเปลี่ยนมาเป็น จังหวัดภูเก็ต
ในเวลาต่อมา
“ไข่มุกอันดามันสวรรค์เมืองใต้” ด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันหลากหลายทั้งป่าดิบชื่น ป่าชายเลน หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสสีคราม ใต้ท้องทะเลมีแนวปะการังสวยงาม ภูเก็ตจึงได้รับขนานนามให้เป็นแดนสวรรค์
“ไข่มุกอันดามันสวรรค์เมืองใต้” ด้วยทรัพยากรธรรมชาติอันหลากหลายทั้งป่าดิบชื่น ป่าชายเลน หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสสีคราม ใต้ท้องทะเลมีแนวปะการังสวยงาม ภูเก็ตจึงได้รับขนานนามให้เป็นแดนสวรรค์
“หาดทรายสีทอง” หากมองจากเบื้องบนดั่งสายตานก
จะเห็นชายหาดทางทิศตะวันตกของเกาะภูเก็ตเว้าแหว่งเป็นเสี่ยวจันทร์
โดยมีขุนเขาเขียวขจีปิดหัวท้ายของหาดบางหาด
เช่นหาดป่าตองหาดกระรนซึ่งมีความยาวนับหลายกิโลเมตร ทั้งยังเป็นหาดทรายขาวเนียนละเอียดดุจผืนผ้าใบสีขาวยาวแสงสีทองของดวงอาทิตย์ทราบทาจึงมองเห็นดุจหาดทรายสีทอง
“สองวีรสตรี” ศึกระหว่างไทยกับพม่าในสมัยรัตนโกสินทร์ครั้งใดก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าครั้งสงครามเก้าทับที่เกิดขึ้นในสมัยราชการที่1พม่ายกทัพเข้ามาทุกทิศทุกทางมากถึงเก้าทัพไม่เว้นแม้แต่ด้านเมืองถลางพระยาพิมลเจ้าเมืองถึงแก่อนิจกรรม
คุณหญิงจันภิรยาและคุณมุกน้องสาวจึงรวบรวมชาวเมืองขึ้นต้านทัพพม่าจนเป็นผลสำเร็จ
“บารมีหลวงพ่อแช่ม” ปี พ.ศ. 2419 ในสมัยรัชกาลที่5
เมื่อราคาดีบุกตกต่ำนายเหมืองไม่ยอมจ่ายค่าแรงแก่คนงานชาวจีน
คนงานเหล่านี้จึงรวมตัวกันจัดตั้งเป็นอั้งยี่
ปล้นฆ่าชาวบ้านหลวงพ่อแช่มแห่งวัดฉลองเป็นผู้นำและปลุกขวัญกำลังใจให้ชาวบ้านลุกขึ้นสู้กับอั้งยี่จนได้รับชัยชนะ
“สุดยอด” ในภูเก็ต
“ร่วมถือศีลในประเพณีกินผัก”
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาภูเก็ตช่วงเดือน
ก.ย.-ต.ค. จะได้เข้าร่วมพิธีถือศีลกินผักที่ชาวภูเก็ตถือปฏิบัติมานานนับร้อยปี
อุปมากันว่าเป็นช่วงเวลาที่เกาะภูเก็ตจะขาวโพลนด้วยการนุ่งขาวห่มขาวของผู้คนและหมอกควันรูปเทียนที่จุดบูชาเจ้าตามหรือศาลเจ้าที่มีอยู่มากมายหลาวแห่ง
“ชมอาทิตย์ลับฟ้า ณ
แหลงพรหมเทพ” พระอาทิตย์ตกยามเย็นของทุกวันแต่ที่แหลมพรหมเทพคุณจะได้เห็นห้วงเวลาที่ดวงตะวันค่อยๆลับผืนน้ำไปอย่างสงบงสบแสนตรึงใจ
“วันสบายๆในที่พักริมหาดแสนสวย”
ชายหาดด้านตะวันตกจากเหนือจดใต้ของเกาะภูเก็ตนั่นแสนงามสุดโรแมนติกเกินคำบรรยายเพียงคุณหาที่พักตามรสนิยมริมหาดสักแห่งนอนพักผ่อนกินลมชมวิว
ก็นับเป็นสุดยอดของการมาเยือนภูเก็ตแล้ว
“ท่องโลกใต้ทะเล”
มาเที่ยวภูเก็ตทั้งทีต้องหาเวลาไปดำน้ำดูปะการังถ้าชอบดำน้ำตื้นต้องไปที่เกาะราชาใหญ่และเกาะเฮหากชอบดำน้ำลึกให้ไปที่เกาะราชาน้อยโลกใต้ทะเลบริเวณเกาะเหล่งนี้ไม่แพ้ที่ใดในเรื่องความงดงาม
“สวรรค์ของคนรักพิพิธภัณฑ์”
บนเกาะภูเก็ตมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งพิพิธภัณฑ์เปลือกหอยใกล้หาดราไวย์จัดแสดงเปลือกหอยที่มีอายุยาวนานและไข่มุกสีทองหนักถึง
140 กะรัตที่พบในมะเลของภูเก็ต
พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัวในตัวเมืองภูเก็ตจัดแสดงเรื่องราวของชาวจีนฮกเกี้ยน
“ย่านตึกเก่า” เมื่อเข้าสู่เขตเทศบาลนครภูเก็ตสิ่งแรกที่สะดุดตาไปเยือนคือตึกเก่าที่ตั้งกระหง่านอยู่ในย่านการค้าเก่าของเมืองตึกเหล่านี้มีอายุนับร้อยปีลีลักษณะสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะตะวันตกและตะวันออกได้อย่างกลมกลืนเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองภูเก็ต
“พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว” เดิมเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนแห่งแรกในภูเก็ตบรรพบุรุษชาวจีนฮกเกี้ยนที่อพยพมาอยู่ที่นี้ได้ร่วมกันตั้งขึ้นหลังจากปล่อยให้อาคารเรียนซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลทิ้งร้านมาระยะหนึ่ง
จึงมีการจัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์ของชาวจีนฮกเกี้ยน
“ศาลเจ้าแสงธรรม” เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ของภูเก็ตอายุนับร้อยปีนอกจากมีภาพเขียนเก่าแก่แล้วศาลเจ้าแห่งนี้ยังสะท้อนให้เห็นการอพยพเข้ามาเป็นสายตระกูลของคนจีนฮกเกี้ยน
“เขารัง”
เดิมชื่อว่า
“เขาหลัง”เปรียบเป็นหลังบ้านหรือหลังเมืองของภูเก็ตเนื่องจากเป็นเขาเตี้ยๆหลังตัวเมืองภูเก็ตทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะที่พักผ่อนหย่อนใจและสวนสุขภาพของคนภูเก็ตรวมถึงเป็นจุดชมทิวทัศน์ตัวเมืองด้วย
“อนุสาวรีย์หลัก
60 ปีและสะพานหิน” อนุสาวรีย์หลัก60ปีตั้งอยู่บริเวณสวนสะพานหินซึ่งเป็นสวนสาธารณะและที่พักผ่อนหย่อนใจของคนภูเก็ตรูปลักษณ์ของอนุสาวรีย์จำลองจากกระเชอขุดแร่
“ศาลเจ้ากระทู้”
เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของประเพณีกินผักหรือกินเจ
แต่ละคืนชาวจีนจะมาชุมนุมประกอบพิธีกรรมกันที่นี้ในศาลมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมซึ่งเป็นที่เคารพของคนจีน
“พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ภูเก็ต”
พิพิธภัณฑ์อยู่ภายในอาคารขนาดใหญ่ที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรม ชิโน-โปรตุกิส
จัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาของชาวจีนฮกเกี้ยนการทำเหมืองแร่แบบต่างๆพร้อมหุ่นจำลองที่เหมือนจริง
“หาดป่าตอง”
เป็นหาดที่สวยที่สุดในภูเก็ตมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกเมื่อเอ่ยถึงทะเลภูเก็ตหลายคนมักนึกถึงหาดป่าตองเป็นแห่งแรกนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติต่างมุ่งมาเที่ยวป่าตองที่นี้จึงพร้อมพรั่งด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งศูนย์รวมธุรกิจและความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ
“หาดกะรน”
หาดนี้มีเนินทรายเป็นแนวยาวปกคลุมด้วยเถาผักบุ้งทะเลเขียวสดดูละลานตาจนเป็นเอกลักษณ์ของหาดทางเทศบาลจัดทำสะพานไม้ให้เกินลงหาดเป็นระยะๆเพื่อนักท่องเที่ยวจะได้ไม่เหยียบย่ำบนเถาผักบุ้งทะเล
“จุดชมทิวทัศน์สามอ่าว”
เป็นจุดชมทิวทัศน์ยอดนิยมเช่นเดียวกับแหลมพรมเทพนักท่องเที่ยวมักมาแวะชมทิวทัศน์ที่นี่ก่อนไปชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรมเทพการชมท้องทะเลจากมุมสูงให้อารมณ์และบรรยากาศต่างกับการชมบริเวณหน้าหาดมากทีเดียว
“หาดในหาน”เป็นชายหาดที่อยู่ทางด้านใต้ของภูเก็ตจุดเด่นของหาดคือมีเรือยอชด์จำนวนมากจากทั่วโลกมาจอดพักที่นี้จนกลายเป็นแหล่งชุมเรือยอชต์ชื่อโรงแรมบนหาดนี้ก็มีความหมายเกี่ยวข้องกับเรือยอชต์
“แหลมพรหมเทพ” เดิมชื่อว่าแหลมเจ้าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเลื้อนแน่นด้วยผู้คนดินนั่นหากมีเวลานักท่องเที่ยวน่าจะไปเที่ยวชมในวันธรรมดาได้
“วัดฉลอง”
เมื่อเอ่ยถึงวัดฉลองคนทั่วไปมักถึงหลวงพ่อแช่มพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในสมัยรัชกาลที่5ซึ่งเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดนี้และเป็นขวัญกำลังใจให้ชาวบ้านปราบกบฎอั้งยี่ได้สำเร็จแม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้วแต่ผู้คนจะมีก็ยังเลื้อมใสศรัทธาและระลึกถึงเกียรติคุณของท่านในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีนจากปีนังมาเลเซียและสิงคโปร์มานมัสการรูปหล่อของท่านเป็นจำนวนมาก
สุดยอดที่กินในภูเก็ต
1.โอชารส ภูเก็ต ร้านกาแฟเก่าแก่ที่เปิดคู่กับเมืองภูเก็ตมานานกว่า
32 ปี
ลักษณะร้านเป็นร้านห้องแถว 2 ชั้น
โดยร้านโอชารสตั้งอยู่บนถนนเยาวราช ร้านอยู่ระหว่างถนนถลางและถนนดีบุก
ตัดกับถนนเยาวราช เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ
ร้านนี้มีดีที่ลูกชิ้นเนื้อที่ทางร้านผลิตเองทุกขั้นตอน
ส่วนเมนูก๋วยเตี๋ยวมีให้ได้เลือกลิ้มรสทั้งน้ำ และแห้ง
ที่รับรองรสชาติจะไม่ทำให้ไม่ผิดหวังแน่นอน
2. ดีบุก ภูเก็ต เป็นร้านอาการตั้งอยู่ในเมืองเก่าบริเวณตึกแถวรุ่นเก่าแบบชิโนโปรตุกีส ตกแต่งได้อย่างมีสไตล์ด้วยเฟอร์นิเจอร์หวายนั่งสบาย และมีสวนเล็กๆ รับลมเย็นตามธรรมชาติ บรรยากาศภายในร้านชวนให้โรแมนติกในแบบผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตกได้อย่างกลมกลืน อบอุ่นภายใต้แสงเทียนแสนคลาสสิค มีโต๊ะให้นั่งหลายมุมด้วยกัน ส่วนเมนูอาหารที่นี่ผสมผสานอย่างลงตัว ระหว่างรสชาติอาหารไทยกับฝรั่งเศส แถมมีไวน์ชั้นดีรสนุ่มให้เลือกชิมมากมาย
3. ลกเที้ยน ภูเก็ต เป็นร้านอาหารที่ผสมสองวัฒนธรรมระหว่างคนพื้นเมืองดั้งเดิมและชาวจีนที่อพยพมา โดยเฉพาะในแบบลกเที้ยน ที่นี่จึงรวมเอาอาหารท้องถิ่นสารพัดรายการมาไว้ในที่เดียวกัน ทั้งหมี่หุ้น โลบะ โอ๋เอ๋ว ฯลฯ จานเด่นคือ หมี่ฮกเกี้ยน ที่ใช้เส้นหมี่ขนาดใหญ่กว่าบะหมี่เหลืองทั่วไปมาผัดกับอาหารทะเล จัดว่าเป็นจานอร่อยที่สะท้อนเอกลักษณ์ของอาหารภูเก็ตได้อย่างดี
อ้างอิง
นางสาวพนิดา เทพดำ เลขที่ 34
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น