Independent Study : คลีโอพัตรา จอมราชินีแห่งอียิปต์

คลีโอพัตรา จอมราชินีแห่งอียิปต์

คลีโอพัตรา เรื่องราวของพระนางถึงแม้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากว่า 2000 ปีแล้ว แต่ก็เป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญของอียิปต์โบราณ และเป็นที่จดจำของคนทั่วโลก เรื่องราวของพระนางเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและน่าค้นหา จึงทำให้ใครหลายๆคนต้องการที่จะศึกษาค้นคว้าเรื่องราวของพระนาง

คลีโอพัตรา เป็นราชินีแห่งอียิปต์โบราณ และเป็นเชื้อพระวงค์องค์สุดท้ายของราชวงค์ปโตเลมี แห่งมาซิโดเนีย พระนางมีเชื้อสายกรีก กำเนิดที่ดินแดนอเล็กซานเดรีย ในประเทศอียิปต์ พระนางเป็นพระราชธิดาของปโตเลมีที่ 12 มีพระนามว่าโอเลทิส และพระมารดา มีพระนามว่า คลีโอพัตราที่ 5 ทรีฟาเอนา ซึ่งชื่อ คลีโอพัตรานั้นเป็นภาษากรีก แปลว่า "ความเจริญรุ่งเรืองของบิดา" และชื่อเต็มของพระนางคลีโอพัตรา คือ "คลีโอพัตรา เธอา ฟิโลปาเตอร์" ซึ่งหมายถึง "เทพีคลีโอพัตรา ผู้เป็นที่รักของบิดา" คลีโอพัตรา ทรงมีพี่น้องร่วมพระโลหิต อยู่ 3 พระองค์ ด้แก่ พระอนุชา 2 พระองค์ และพระขนิษฐา 1 พระองค์

มีการร่ำลือกันว่าพระนางเป็นผู้ที่มีความสวยความงามเหนือหญิงใดในโลก เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ก็ได้มีนักประวัติศาสตร์ และนักโบราณคดีหลายคนในปัจจุบัน แย้งขึ้นว่าพระนางคลีโอพัตราไม่ได้สวยที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ตรงกันข้ามกลับขี้เหร่ด้วยซ้ำไป โดยดูรูปจากเหรียญที่ระลึกที่ทำขึ้นในสมัยนั้น แต่ภายหลังก็ได้มีการพิสูจน์โดยอ่านจากบันทึกทางประวัติศาสตร์ของนักประวัติศาสตร์ชาวโรมัน 2 คนที่เคยได้พบเห็นตัวจริงของพระนาง เขาได้บันทึกไว้ว่า พระนางคลีโอพัตราเป็นผู้หญิงที่สวยและทรงเสน่ห์เป็นที่สุด

คลีโอพัตราเป็นผู้ที่มีความสามารถมากมาย ทั้งการที่พูดได้หลายภาษา เช่น ภาษาอียิปต์ กรีก ละติน เอธิโอเปียน ฮิบรู อารบิก จูเดีย เปอร์เซีย เป็นต้น และยังมีความเชี่ยวชาญในด้านคณิตศาสตร์ รัฐศาสตร์ การปกครอง และ ศิลปศาสตร์อีกด้วย พระนางทรงเป็นยอดนักการทูต ยอดนักปราชญ์ และกวี ซึ่งพระนางได้แต่งโครงกลอนไว้มากมาย ตลอดช่วงเวลาที่ขึ้นครองราชย์ และที่สำคัญพระนางทรงเป็นนักรบผู้เก่งกล้า ในยามศึกสงครามพระนางไม่เคยเกรงกลัว และก้มหัวให้ฝ่ายศัตรูเลย พระนางร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารอียิปต์อย่างไมกลัวตาย

และเส้นทางในการขึ้นครองราชย์ของพระนางนั้น เมื่อคลีโอพัตรามีพระชนม์ 14 พรรษา ทรงกลายเป็นธิดาองค์โปรดของพระบิดา ด้วยความเฉลียวฉลาดและเคารพรักพระบิดาหลังจากพระบิดาของพระนางสวรรคตลงพระนางก็ได้ขึ้นครองราชย์ร่วมกับพระอนุชาองค์โตของพระนาง เนื่องจากพระบิดาได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้ว่าให้พระนางได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ และเพื่อให้การขึ้นครองราชย์ของพระนางเป็นไปอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมของราชวงศ์ พระนางจะต้องเข้าพิธีอภิเษกกับพระอนุชาร่วมสายเลือด ซึ่งก็คือ ปโตเลมีที่ 13

ในปีที่ 48 ก่อนคริสตกาล คณะที่ปรึกษาของปโตเลมีที่13 ได้เกลี้ยกล่อมให้ปโตเลมีที่13 เกลียดคลีโอพัตรา จากนั้นก็ยึดอำนาจของคลีโอพัตรา และบังคับให้พระนางหนีไปจากอียิปต์ และหลังจากนั้นพระนางคลีโอพัตราก็ได้รับความช่วยเหลือจากจูเลียส ซีซ่าร์ กงศุลโรมัน ซึ่งเป็นคนรักใหม่ของพระนาง จูเลียส ซีซ่าร์ได้ทวงบัลลังก์คืนให้พระนาง และทั้งสองก็ได้อยู่ร่วมกันที่อียิปต์และมีลูกด้วยกัน 1 คน ชื่อว่า ซีซ่าร์เรียนหลังจากนั้นจูเลียส ซีซ่าร์ ก็ได้เดินทางกลับโรม และถูกลอบสังหารอย่างปริศนา และเพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงให้ราชวงค์ปโตเลมี คลีโอพัตราจึงเข้าไปตีสนิทกับ มาร์ค แอนโทนี ซึ่งเป็นลูกบุญธรรมของจูเลียส ซีซ่าร์ และเมื่อ มาร์ค แอนโทนี ตกหลุมรักพระนาง เขาได้ยกดินแดนส่วนหนึ่งที่เป็นอาณานิคมของโรมัน ให้กับอียิปต์ ดังนั้นพวกขุนนางของโรมันจึงโกรธมาก และนั้นก็เป็นต้นเหตูที่ทำให้เกิด สงครามระหว่างอียิปต์และโรมันขึ้น ในระหว่างทำศึกสงคราม คลีโอพัตรา กับ มาร์ค แอนโทรนี ได้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับทหารอียิปต์ แต่การรบครั้งนี้พ่ายแพ้ มาร์ค แอนโทนีจึงฆ่าตัวตาย และอีกสิบวันให้หลัง พระนางคลีโอพัตราก็ฆ่าตัวตายตาม มาร์ค แอนโทนีไปโดยใช้งูพิษปลิดชีพตนเอง